แรงจัดจริง! เงินบิทคอยน์พุ่ง 15% ในสัปดาห์นี้ เข้าใกล้ 19,000 ดอลล์ สูงสุดรอบ 3 ปี
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลดิติทัล หรือคริปโตเคอร์เรนซี่ นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา รายงานว่า วันนี้ 20 พฤศจิกายน (ตามเวลานิวยอร์ค สหรัฐ) ค่าเงินบิทคอยน์เทียบเงินดอลลาร์สหรัฐ มีราคาทะยานขึ้นปิดที่ 18,821 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 602,272 บาทต่อบิทคอยน์ พุ่งขึ้น 4.9% ใน 1 วันทำการ ส่งผลทำสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปีผ่านมา หรือนับตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม 2018 หรือในรอบ 2 ปี 10 เดือน ส่งผลให้ผลตอบแทนเงินบิทคอยน์พุ่งทะยานในสัปดาห์นี้ 15% และทะยานกว่า 145% ตั้งแต่ต้นปีนี้ หรือเฉลี่ยเดือนละ 13.18% ในระยะเวลา 10 เดือนครึ่ง
สาเหตุจากรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐ ยืนยันว่าในช่วงรอการเปลี่ยนผ่านประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 46 รัฐบาลชุดปัจจุบันยังคงเดินหน้าเจรจากับพรรคเดโมแครต เพื่อผลักดันแพคเกจฟื้นฟูและเยียวยาเศรษฐกิจทั้งในยุโรป และสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะมีเงินจำนวนมากมายเข้าสู่ระบบการเงิน และการลงทุนในตลาดทุน นอกจากนี้ บริษัทที่ให้บริการการเงินดิจิทัลชั้นนำหลายแห่ง ประกาศเพิ่มบริการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินบิทคอยน์ให้กับสมาชิก เช่น เพย์พัล (Paypal) ประกาศเพิ่มบริการซื้อขายเงินบิทคอยน์ แคช หรือไลท์คอยน์ นอกจากนี้ ภายในปี 2021 เตรียมเปิดบริการให้สมาชิกใช้เงินสกุลบิทคอยน์เพื่อใช้ชำระค่าสินค้า หรือบริการภายในเครือข่ายธุรกิจค้าปลีกกว่า 26 ล้านราย
ในสัปดาห์นี้ ตลาดสกุลเงินดิติทัลบิทคอยน์มีความคึกคักทั้งสัปดาห์ ทำให้มีราคาพึ่งสร้างสถิติครั้งใหม่ถึง 3 ครั้งภายในสัปดาห์เดียว เริ่มจากวันที่ 17 พฤศจิกายน ค่าเงินบิทคอยน์เทียบเงินดอลลาร์สหรัฐ มีราคาที่ระดับ 17,030 ต่อดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 544,960 บาทต่อบิทคอยน์ ต่อมาในวันที่ 18 ค่าเงินบิทคอยน์ปิดที่ระดับ 17,480 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 569,360 บาท และในคืนที่ผ่านมา ปิดที่ 18,821 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 602,272 บาทต่อบิทคอยน์ ทำสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี หรือนับตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม 2018 หรือในรอบ 2 ปี 10 เดือน ในรูปค่าเงินบาทนั้น พบว่า ค่าเงินบิทคอยน์มีค่าเกินกว่า 600,000 บาท สูงสุดในรอบเกือบ 3 ปีเช่นกัน
ทั้งนี้ ค่าเงินบิทคอยน์มีราคาทะยานขึ้นมากกว่า 2 เท่านับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงปัจจุบัน โดยมีอัตราเฉลี่ยเคลื่อนไหวรายวันที่ 2.6% ในขณะที่เมื่อปี 2017 ค่าเงินบิทคอยน์เทียบดอลลาร์สหรัฐ ทะยานถึง 1,375% ก่อนที่จะถูกเทขายอย่างรุนแรงในปี 2018 ถึง -70% จากในปี 2017